G-SHOCK แบรนด์นาฬิกาที่ผลักดันมาตรฐานใหม่ด้านความแข็งแกร่งอย่างไม่หยุดยั้งตั้งแต่ปี 1983 มีความภาคภูมิใจที่จะเปิดตัวซีรีส์ SHICHI-FUKU-JIN (เจ็ดเทพเจ้าโชคลาภ) ซึ่งเป็นนาฬิการุ่นพิเศษ
รุ่นบิฉะมงเท็น (Bishamonten) จากเจ็ดแบบในซีรีส์นี้มีต้นแบบมาจากรุ่น DW-6900 ที่มีหน้าปัดกราฟิกสามหน้าปัดอันโดดเด่น สีพื้นฐานเทาเข้มมันวาวกึ่งโปร่งแสงตัดกับสีโรสโกลด์ ห่วงรัดสายตกแต่งด้วยหีบสมบัติพร้อมภาพเทพบิฉะมงเท็น ในขณะที่ตัวสายนั้นลงลายด้วยชีซ่า (Shisa) เพื่อเป็นสัญลักษณ์เพื่อความโชคดีอย่างแท้จริง
การติดสว่างหน้าจอนาฬิกาจะทำให้ตัวอักษร H ของชื่อ G-SHOCK ลอยขึ้นมาบนไฟพื้นหลัง EL ที่เรืองรอง แต่ละรุ่นของซีรีส์เทพเจ้าโชคลาภ (Seven Lucky Gods) นี้จะปรากฏตัวอักษรที่ต่างกันออกไป โดยเมื่อนำมารวมกันทุกรุ่นจะสามารถสะกดได้เป็นคำว่า G-SHOCK
จุดเริ่มต้นของเทพเจ้าโชคลาภ
ตำนานของเทพเจ้าโชคลาภเป็นเรื่องเล่าที่ผสมผสานศาสนาของญี่ปุ่นเข้ากับพระพุทธศาสนาและความเชื่อพื้นถิ่นของญี่ปุ่นเอง บรรดาเทพเจ้าประกอบไปด้วยเทพเจ้าทั้งหมดเจ็ดองค์ อันมีนามว่าเอบิซุ โฮเทย์ เบ็นไซเทน บิฉะมงเท็น ไดโกะกุเท็น จุโรจิน และฟุคุโระกุจู เทพเจ้าเหล่านี้มีต้นกำเนิดมาจากเทพเจ้าโบราณในด้านโชคลาภในศาสนาฮินดู พุทธ เต๋า ชินโต และอีกหลายแหล่งที่มา หากอ้างอิงจากสัทธรรมปุณฑรีกสูตร (Humane King State-Protection Perfection of Wisdom Sutra) การนับถือเทพเจ้าเหล่านี้จะทำให้รอดพ้นโชคร้ายและได้รับพรจากโชคลาภทั้งเจ็ด ความเชื่อนี้เกิดขึ้นในสมัยสิ้นสุดยุคมูโรมาจิ (Muromachi) ของญี่ปุ่น และเป็นที่รู้จักกันในบรรดาผู้คนทั่วไปในสมัยเอโดะ (Edo) และได้รับการสืบทอดความเชื่อต่อกันมาจวบจนสมัยใหม่
* โชคร้ายทั้งเจ็ด: ความผิดเพี้ยนของพระอาทิตย์และพระจันทร์ ความผิดเพี้ยนของโลก วาตภัย อุทกภัย อัคคีภัย ภัยแล้ง โจรกรรม โชคลาภทั้งเจ็ด: อายุยืนยาว ความมั่งคั่ง ความนิยม ความซื่อสัตย์ ความมีอิทธิพล ความรัก ความนับถือ และความอุดมสมบูรณ์
บิฉะมงเท็น
บิฉะมงเท็นเป็นเพียงเทพเจ้าองค์เดียวในบรรดาเทพเจ้าแห่งโชคลาภทั้งเจ็ด บิฉะมงเท็นดั้งเดิมเป็นเทพที่คอยปกปักษ์อินเดียทางตอนเหนือ และยังได้รับการขนานนามว่า “ทะมงเท็น” ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่จตุรเทพที่คอยปกปักษ์รักษพุทธศาสนาและเป็นเทพที่นิยมฟังธรรม ในฐานะที่เป็นเทพดูแลทรัพย์สมบัติ ความมั่งคั่ง และเกียรติยศด้วยคทามหาสมบัติในมือขวาและเจดีย์ในมือซ้าย ทำให้เป็นที่ศรัทธาของบรรดาผู้ถือศีลและบุคคลทั่วไป
รุ่นบิฉะมงเท็น (Bishamonten) จากเจ็ดแบบในซีรีส์นี้มีต้นแบบมาจากรุ่น DW-6900 ที่มีหน้าปัดกราฟิกสามหน้าปัดอันโดดเด่น สีพื้นฐานเทาเข้มมันวาวกึ่งโปร่งแสงตัดกับสีโรสโกลด์ ห่วงรัดสายตกแต่งด้วยหีบสมบัติพร้อมภาพเทพบิฉะมงเท็น ในขณะที่ตัวสายนั้นลงลายด้วยชีซ่า (Shisa) เพื่อเป็นสัญลักษณ์เพื่อความโชคดีอย่างแท้จริง
การติดสว่างหน้าจอนาฬิกาจะทำให้ตัวอักษร H ของชื่อ G-SHOCK ลอยขึ้นมาบนไฟพื้นหลัง EL ที่เรืองรอง แต่ละรุ่นของซีรีส์เทพเจ้าโชคลาภ (Seven Lucky Gods) นี้จะปรากฏตัวอักษรที่ต่างกันออกไป โดยเมื่อนำมารวมกันทุกรุ่นจะสามารถสะกดได้เป็นคำว่า G-SHOCK
จุดเริ่มต้นของเทพเจ้าโชคลาภ
ตำนานของเทพเจ้าโชคลาภเป็นเรื่องเล่าที่ผสมผสานศาสนาของญี่ปุ่นเข้ากับพระพุทธศาสนาและความเชื่อพื้นถิ่นของญี่ปุ่นเอง บรรดาเทพเจ้าประกอบไปด้วยเทพเจ้าทั้งหมดเจ็ดองค์ อันมีนามว่าเอบิซุ โฮเทย์ เบ็นไซเทน บิฉะมงเท็น ไดโกะกุเท็น จุโรจิน และฟุคุโระกุจู เทพเจ้าเหล่านี้มีต้นกำเนิดมาจากเทพเจ้าโบราณในด้านโชคลาภในศาสนาฮินดู พุทธ เต๋า ชินโต และอีกหลายแหล่งที่มา หากอ้างอิงจากสัทธรรมปุณฑรีกสูตร (Humane King State-Protection Perfection of Wisdom Sutra) การนับถือเทพเจ้าเหล่านี้จะทำให้รอดพ้นโชคร้ายและได้รับพรจากโชคลาภทั้งเจ็ด ความเชื่อนี้เกิดขึ้นในสมัยสิ้นสุดยุคมูโรมาจิ (Muromachi) ของญี่ปุ่น และเป็นที่รู้จักกันในบรรดาผู้คนทั่วไปในสมัยเอโดะ (Edo) และได้รับการสืบทอดความเชื่อต่อกันมาจวบจนสมัยใหม่
* โชคร้ายทั้งเจ็ด: ความผิดเพี้ยนของพระอาทิตย์และพระจันทร์ ความผิดเพี้ยนของโลก วาตภัย อุทกภัย อัคคีภัย ภัยแล้ง โจรกรรม โชคลาภทั้งเจ็ด: อายุยืนยาว ความมั่งคั่ง ความนิยม ความซื่อสัตย์ ความมีอิทธิพล ความรัก ความนับถือ และความอุดมสมบูรณ์
บิฉะมงเท็น
บิฉะมงเท็นเป็นเพียงเทพเจ้าองค์เดียวในบรรดาเทพเจ้าแห่งโชคลาภทั้งเจ็ด บิฉะมงเท็นดั้งเดิมเป็นเทพที่คอยปกปักษ์อินเดียทางตอนเหนือ และยังได้รับการขนานนามว่า “ทะมงเท็น” ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่จตุรเทพที่คอยปกปักษ์รักษพุทธศาสนาและเป็นเทพที่นิยมฟังธรรม ในฐานะที่เป็นเทพดูแลทรัพย์สมบัติ ความมั่งคั่ง และเกียรติยศด้วยคทามหาสมบัติในมือขวาและเจดีย์ในมือซ้าย ทำให้เป็นที่ศรัทธาของบรรดาผู้ถือศีลและบุคคลทั่วไป
## จัดส่งแบบพัสดุ EMS ฟรีทั่วประเทศทุกรายการ ##
